การวิเคราะห์ความแปรปรวน
ในการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยของประชากร 1 กลุ่ม และ 2 กลุ่ม ตัวสถิติ
ทดสอบที่ใช้คือ Z หรือ T โดยการเลือกใชต้วัสถิติทดสอบใดข้ึนอยกู่ บัวา่ ทราบความแปรปรวนของ
ขอ้ มูลในประชากรน้ันหรือไม่ ตวัอย่างมีขนาดใหญ่ หรือเล็ก แต่ในกรณีที่ท าการศึกษาประชากร
มากกว่า 2 กลุ่ม และต้องการทดสอบสมมติฐานว่า ค่าเฉลี่ยของประชากรแต่ละกลุ่มนั้นแตกต่างกันหรือไม่จะต้องทดสอบสมมติฐานทีละคู่ เช่นในการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยของ
ประชากร 3 กลุ่ม จะตอ้งทา การทดสอบสมมติฐานทีละคู่จำ นวน 3 คร้ัง ดังนี้
ซึ่งจะทำให้เสียเวลาในการทดสอบสมมติฐานที่ซ้า ซ้อนเป็นอย่างมาก และประการสำคัญคือเป็นการทำค่าระดับนัยสำคัญมีค่ามากเกินไป ดังนั้น จึงมีการนำเทคนิคการวิเคราะห์ความ
แปรปรวน (Analysis of Variance: ANOVA) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้ในการทดสอบ
สมมติฐานเกี่ยวกับความแตกต่างของค่าเฉลี่ยกรณีประชากรมากกว่า 2 กลุ่ม (k กลุ่ม) โดยทำการทดสอบเพียงครั้งเดียว เช่นกรณีประชากร 3 กลุ่ม สมมติฐานเชิงสถิติเป็นดังนี้
ถ้าผลการทดสอบสมมติฐานปฏิเสธ H0 หมายความว่ามีค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 1 คู่ที่มีค่า
แตกต่างกันซึ่ง อาจจะเป็น μ1 ≠ μ2
หรือ μ1 ≠ μ3
หรือ μ2 ≠ μ3
หรือ μ1 ≠ μ2 ≠ μ3
ก็ได้ซึ่งการทดสอบว่าค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มใดไม่เท่ากันนั้นเรียกวา่ การเปรียบเทียบเชิงพหุ(Multiple
Comparison) ซึ่งจะกล่าวรายละเอียดต่อไป
การวเิคราะห์ความแปรปรวนมีด้วยกนั หลายประเภท ในเอกสารฉบับนี้จะกล่าวถึงการ
วิเคราะห์ความแปรปรวนเพียง 2แบบ คือ
1. การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
2. การวิเคราะห์ความแปรปรวนสองทาง (Two-way ANOVA)
หลักการของการวิเคราะห์ความแปรปรวน
หลักเกณฑ์ที่สำ คัญในการวเิคราะห์ความแปรปรวนคือแบ่งความแปรปรวนของข้อมูล
ทั้งหมดออกตามสาเหตุที่ทา ให้ข้อ มูลแตกต่างกัน คือความแปรปรวนภายในกลุ่ม (within group)
และความแปรปรวนระหว่างกลุ่ม (between group) โดยที่
ความแปรปรวนทั้งหมด = ความแปรปรวนภายในกลุ่ม + ความแปรปรวนระหว่างกลุ่ม
การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
เป็นการศึกษาปัจจัยหรือแฟคเตอร์ (factor) ที่มีผลทำให้ข้อมูลแตกต่างกันเพียงปัจจัยเดียวโดยที่ปัจจัยนั้นอาจมีหลาย ๆ ระดับเรียกระดับต่างๆ ของปัจจัยว่าทรีทเมนต์ (treatment)
ดังนั้นจึงเป็นการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของข้อมูลในระดับต่างๆ ของปัจจัยนั่นเองนิยมเรียกข้อมูลว่าค่าสังเกต และหน่วยแจงนับที่ใหข้อมูลว่าหน่วยทดลอง (experimental unit) เช่น
ตัวอย่าง 9.1 บริษทัผลิตถุงกระดาษที่ใช้ในร้านขายของชา พบว่า ความเหนียวของถุงกระดาษข้นอยู่
กับความเข้มข้นของเยื่อไม้ที่ใช้ทำ เยื่อ กระดาษ จึงทำการทดลองผลิตถุงกระดาษโดยใช้ความเข้มข้น
ของเยื่อไม้ต่างกนั คือ5% 10% 15% และ 20% แล้วทำการวัดความเหนียวของถุงกระดาษที่เลือก
จากแต่ละกลุ่ม ๆ ละ6 ใบ
ค่าสังเกต คือความเหนียวของถุงกระดาษ
แฟคเตอร์ คือความเข้มข้นของเยื่อไม้
ทรีทเมนต์ คือความเขม้ขน้ของเยื่อไม้ต่างกัน คือ5%, 10%, 15% และ 20%
หน่วยทดลอง คือถุงกระดาษ
ลักษณะของตารางข้อมูล
ลักษณะของตารางข้อมูลในรูปทั่วไป
ลักษณะของข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวเป็นดังนี้
เมื่อ
xij
แทนข้อมูลของทรีทเมนต์ที่ i หน่วยทดลองที่ j
i = 1,2,3,…,k และ j=1,2,3,…,ni
Ti
แทนผลรวมของข้อมูลทรีทเมนต์ที่
T แทนผลรวมขอ้ มูลท้งัหมด
xi แทนค่าเฉลี่ยของข้อมูลทรีทเมนต์ที่ i
x แทนค่าเฉลี่ยของข้อมูลทั้งหมด
k แทนจำนวนทรีทเมนต์
n แทนจา นวนขอ้มูลท้งัหมด เท่ากบั n1
+n2
+n3
+…+n
เนื่องจากการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวเป็นการศึกษาอิทธิพลของปัจจัยเดียวที่มีผลทำให้ค่าสังเกตแตกต่างกันนั้น คือข้อมูลมีความแตกต่างเนื่องจากกลุ่มที่แตกต่างเท่านั้นดังนั้นการวเิคราะห์จึงแบ่งความแปรปรวนของข้อมูลเป็นดังนี้
1. ความแปรปรวนระหว่างกลุ่ม (Between Groups Sum of Square) เขียนแทนด้วย
สัญลักษณ SSB
เป็นการพิจารณาความแปรปรวนที่เกิดจากการที่ค่าเฉลี่ยของตัวอย่างในแต่ละกลุ่ม
แตกต่างจากค่าเฉลี่ยรวม โดยที่
2. ความแปรปรวนภายในกลุ่ม (Within Group Sum of Square) เขียนแทนด้วย
สัญลักษณ์ SSE เป็นการพิจารณาความแปรปรวนที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มแต่ละกลุ่มซึ่งไม่ทราบสาเหตุ
ว่าเป็นความแปรปรวนที่เกิดจากสาเหตุใด ในบางครั้งจึงเรียกว่าความคลาดเคลื่อน (Error Sum of
Square)โดยที่
3. ความแปรปรวนรวม (Total Sum of Square) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ SST เป็น
การพิจารณาความแปรปรวนที่เกิดจากค่าสังเกตแต่ละค่าแตกต่างจากค่าเฉลี่ยรวม โดยที่
การคำนวณ Sum of Square นอกจากจะคำนวณจากวิธีการข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีการคำนวณที่ปรับให้ง่ายขึ้น ดังนี้
เงื่อนไขของการวิเคราะห์ความแปรปรวน
ในการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยของประชากร k กลุ่ม ด้วยเทคนิคการ
วิเคราะห์ความแปรปรวน มีเงื่อนไขดังนี้
1 ประชากร k กลุ่มมีการแจกแจงแบบปกติ
2 ความแปรปรวนของแต่ละประชากรเท่ากนั
3 ตวัอย่างสุ่มจากแต่ละประชากรเป็นอิสระต่อกัน
สมมติฐานในการทดสอบ
กำ หนด μ1
แทนค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มที่1
μ2
แทนค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มที่ 2
.
.
.
μk แทนค่าเฉลี่ยของประชากรกลุ่มที่k
สมมติฐานเชิงสถิติ
H0 :μ1=μ2=μ3=...=μk
H0 :μ1=μ2=μ3=...≠μk อย่างน้อย1คู่
หรือ
H0 : ค่าเฉลี่ยของประชากรk กลุ่มไม่แตกต่างกัน
H1 : ค่าเฉลี่ยของประชากรk กลุ่มแตกต่างกันอย่างน้อย1คู่
ตัวสถิติทดสอบ และค่าวิกฤต
ตัวสถิติในการทดสอบคือ
ซึ่งคำนวณจากตารางการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance Table)หรือเรียกว่าANOVA ดังนี้
อาจารย์ผู้สอนวิชาสถิติต้องการเปรียบเทียบผลการสอบย่อยของนักศึกษา 3 กลุ่ม ได้แก่
นักศึกษาชั้น ปี1, 2 และ 3 ที่ลงทะเบียนเรียนจึงทำการเลือกตัวอย่างนักศึกษาชั้น ปี1, 2 และ 3 มา
กลุ่มละ4, 6และ5 คน ตามลำดับ จากนั้นทำการทดสอบโดยใช้ข้อสอบเดียวกันซึ่งมีคะแนนเต็ม 10
คะแนน นักศึกษาได้คะแนนสอบ ดังนี้
ให้ทดสอบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษา 3 ชั้นปีนี้แตกต่างกัน หรือไม่ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
ค่าวกิฤต
f1-a,k-1,n-k = f 0.95,2,12 = 3.89
เนื่องจากค่าสถิติทดสอบ F=8.49 อยู่ในบริเวณปฏิเสธ HO หมายความว่าคะแนนเฉลี่ย
ของนกัศึกษาอย่างน้อยหนึ่งกลุ่มจะแตกต่างไปจากกลุ่มอื่นๆ ที่ระดับนัยสำ คัญ 0.05
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น